การเรียก "ซอฟต์แวร์" เรามักจะใช้คำว่า "โปรแกรม" กันจนติดปาก ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมแต่งรูป (Photo Editing Software) โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ (Video Editing Software) โปรแกรมบัญชี (Accounting Software) หรือโปรแกรมอะไรก็ตามแต่ ซึ่งในยุคที่สมาร์ทโฟนถือกำเนิดขึ้นมา ก็ได้มีสิ่งที่เรียกว่าแอปพลิเคชันเพิ่มขึ้นมาอีก
โดยในช่วงแรกๆ แอปพลิเคชันถูกใช้งานบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเท่านั้น แต่ภายหลังการมาของ Windows 10 (Windows 8) ก็ทำให้มีแอปพลิเคชันบน เครื่อง PC เพิ่มขึ้นมาอีก ทีนี้การแยกแยะชื่อเรียกเลยมีความสับสนมากขึ้นไปอีก ว่าสรุปแล้วแต่ละชื่อ ที่ใช้เรียกมันแตกต่างกันหรือไม่ และอย่างไร
เชื่อว่าเมื่อทุกคนอ่านมาถึงตรงนี้ ก็อาจเป็นงง ว่าเจ้า ซอฟต์แวร์ กับ โปรแกรม มันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ อ่ะแน่นอนว่าสำหรับแอปพลิเคชัน อันนี้หลายคนรู้กันดีว่าแตกต่างอยู่ ซึ่งถ้าเอาจริงๆ แล้ว ชื่อเรียกทั้งหลาย ไม่ว่าจะโปรแกรม (Program), ซอฟต์แวร์ (Software) หรือแอปพลิเคชัน (Application) ทุกชื่อนี้มีความหมายและขอบเขตหน้าที่ ที่แตกต่างกันของตัวเองซ่อนอยู่ ดังนั้นเรามาทำรู้จักกับพวกมันทีละตัวกันดีกว่า
โปรแกรม (Program) คือชุดคำสั่งที่ถูกเขียนด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ เพื่อสั่งการฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ให้ประมวลผล และแก้ไขปัญหาหรือเพื่อให้ได้ผลลัพธ์อย่างใดอย่างหนึ่ง มีหน้าที่เจาะจงในการทำงานส่วนเล็กๆ หนึ่งหน่วยหนึ่งเวลา โดยชุดคำสั่งจะเกิดขึ้นจากการเขียนโค้ดด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ เช่น ภาษา C, HTML, PASCAL, Python เป็นต้น
รูปแบบการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C
ซึ่งโปรแกรมจะถูกเก็บอยู่ในหน่วยเก็บข้อมูล ที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าถึงได้ และคอมพิวเตอร์จะดึงคำสั่งมาหนึ่งคำสั่งเพื่อประมวลให้เสร็จสิ้น จากนั้นจะดึงคำสั่งต่อไปมาประมวลผลต่อทำงานแบบนี้วนไปเป็นวงจร และคอมพิวเตอร์ก็มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งเหล่านั้น
ความหมายอีกนัยหนึ่ง คือ โปรแกรมมักจะได้รับการพัฒนาโดยตัวบุคคลเพื่อใช้งานส่วนตัว ซึ่งจะมีขนาดเล็กและมีฟังก์ชันจำกัด ไม่ถูกใช้ในวงกว้าง แต่ซอฟต์แวร์คือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาเพื่อผู้ใช้งานจำนวนมาก มีเอกสารและคู่มือประกอบการใช้งาน หรือต้องมีหน้าตา (User Interface - UI) ที่ดีเพื่อให้ผู้ใช้จำนวนมากสามารถใช้งานได้
สำหรับซอฟต์แวร์ (Software) คือ โปรแกรมที่ถูกใช้บนคอมพิวเตอร์ แต่อ้าวสรุปมันต่างกันตรงไหน ??? แน่นอนมันไม่ต่างกันที่ความหมาย แต่ต่างกันตรงที่มาที่ไป และหน้าที่ ไปจนถึงผลลัพธ์สุดท้าย เพราะซอฟต์แวร์ประกอบไปด้วยโปรแกรมหลากหลายตัวที่ทำหน้าที่ประมวลผลในแต่ละส่วน ให้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำงาน
อีกความหมาย คือซอฟต์แวร์จะถูกสร้างมาเพื่อใช้ทำงานควบคู่ไปกับ คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ (Computer Hardware) หรือก็คือเป็นสื่อกลางของคนกับฮาร์ดแวร์ เช่น เครื่องพิมพ์ (Printer) ที่ต้องใช้ซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ช่วยสั่งพิมพ์เอกสารออกมาจากเครื่อง หรือ คีย์บอร์ดที่ต้องมีซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ให้ประมวลผลออกมาเป็นตัวอักษร เป็นต้น
ซอฟต์แวร์จึงเป็นคำกล่าวที่ใช้เรียกแทนชุดโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภทคือ
ภาพจาก https://www.goodcore.co.uk/blog/types-of-software/
คำถามที่หลายคนสงสัย คือเราสามารถเรียกซอฟต์แวร์ว่า โปรแกรมได้หรือไม่ ขอตอบว่าได้ แล้วจะเรียกโปรแกรมว่าซอฟต์แวร์ได้หรือไม่ คำตอบข้อนี้ก็คือได้เหมือนกัน เพราะความหมายเหมือนกัน
ต่อไปแอปพลิเคชัน คือ ชุดโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานปลายทาง (End User) ที่ไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิคก็สามารถใช้เป็นได้ไม่ยาก ซึ่งตามปกติความเข้าใจของคนทั่วไปคือ แอปพลิเคชันต้องใช้งานอยู่บนสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตเท่านั้น แต่มันก็ไม่ใช่เสมอไป เพราะแอปพลิเคชันที่อยู่บนคอมพิวเตอร์ ก็มีเหมือนกัน
ซึ่งความแตกต่างของแอปพลิเคชัน คือมันได้ถูกย่อส่วนลงมา และเป็นส่วนหนึ่งของซอฟต์แวร์ที่ใช้ทำงานเฉพาะทาง นอกจากนี้แอปพลิเคชันจำเป็นต้องมีระบบปฏิบัติการมารองรับถึงทำงานได้เช่นระบบปฏิบัติการ Windows, MacOS, iOS และ Android เป็นต้น ขณะที่ซอฟต์แวร์ไม่จำเป็นต้องทำงานผ่านระบบปฏิบัติการเสมอไป
คำถามคือถ้าเรียกแอปพลิเคชันว่าเป็นโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ได้หรือไม่ คำตอบคือได้ เพราะแอปพลิเคชันคือโปรแกรมชนิดหนึ่งของซอฟต์แวร์ตามที่บอกไว้ แต่กลับกันโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์บางตัวก็อาจไม่ใช่แอปพลิเคชัน และการจะเป็นแอปพลิเคชันได้ต้องมี Graphical User Interface (GUI) หรือหน้าต่างการใช้งานด้วย
นอกจากนี้แอปพลิเคชันทุกตัวจะไม่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง ต้องมีคนมาเปิดใช้เท่านั้น มันไม่เหมือนซอฟต์แวร์บางชนิดที่สามารถทำงานอยู่เบื้องหลังได้เองตลอดเวลา เมื่อเราเปิดคอมพิวเตอร์
ผมจะยกตัวอย่างถึงโปรแกรมอันหลากหลายมากมาย ที่คอยทำงานอยู่เบื้องหลังระบบปฏิบัติการ (Windows, iOS, Android) เช่นพวก Windows Security notification หรือ NVIDIA Container หรือ Realtek HD Audio Universal Service ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้มีการทำงานอยู่ในตัวของมันเอง ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานโดยตรง ดังนั้นมันจึงไม่ใช่แอปพลิเคชัน ส่วนโปรแกรมที่เรียกว่าแอปพลิเคชันได้เช่น Windows Media Player และ Firefox หรือ MS Word เพราะมี Graphical User Interface
กล่าวมาถึงตอนนี้ หลายคนน่าจะมั่นใจแล้วว่า ซอฟต์แวร์ กับ โปรแกรม มีความหมายเหมือนกัน แต่ที่มาต่างกันนิดหน่อย ส่วนซอฟต์แวร์กับแอปพลิเคชันบางคนอาจยังสับสนอยู่เล็กน้อยว่าจริงๆ แล้วมันแตกต่างกันอย่างไร ดังนั้นเรามาทำตารางเปรียบเทียบกันให้ชัดเจนไปเลยดีกว่า
SOFTWARE
| APPLICATION
|
ความแตกต่างของชื่อเรียกเหล่านี้ ทำให้หลายคนสับสนมานานแสนนาน แต่มันก็ไม่ได้มีความหมายกับชีวิตของใครมากนัก และเชื่อว่าความกระจ่างแจ้ง น่าจะเกิดขึ้นได้บ้างผ่านบทความนี้ และพอจะทำให้ทุกคนสามารถใช้คำศัพท์เหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็น ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน หรือโปรแกรม ซึ่งในอนาคตเราอาจได้เจอคำศัพท์ใหม่ผุดขึ้นมาอีก และทำให้สับสนมากไปกว่าเดิมก็เป็นได้