ขาย Affinity Publisher 2 (Multi-user) for Business ลิขสิทธิ์แท้

Affinity Publisher 2 (Multi-user) for Business
(โปรแกรมออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ โบรชัวร์ e-Book สำหรับผู้ใช้งานหลายคน ในองค์กร)

Perpetual License
  Perpetual License คืออะไร ?

Affinity Publisher 2 (Multi-user) for Business มันเป็นโปรแกรมที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ของ โปรแกรมออกแบบ ที่ใช้สำหรับออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ โบรชัวร์ และอีบุ๊ก (e-Book) ระดับมืออาชีพ จาก ค่าย Serif โดยฟีเจอร์ของโปรแกรม จะทำงานในลักษณะเดียวกับ โปรแกรม Adobe InDesign แต่มีราคาถูก และคุ้มค่ากับการลงทุน

ด้วยกระบวนการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ที่ง่าย และราบรื่น โปรแกรมออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ อีบุ๊ก รุ่นสำหรับผู้ใช้งานหลายคน ในองค์กร Affinity Publisher 2 (Multi-user) for Business ได้มอบพลังความคิดสร้างสรรค์ในการควบรวมสื่อสวย ๆ หลาย ๆ แบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ งานกราฟิก และข้อความ เพื่อปั้นแต่งให้เป็นเลย์เอาต์ที่สวยงามสำหรับสำนักพิมพ์ นิตยสาร หนังสือ โบรชัวร์ โปสเตอร์ รายงาน และผลงานสร้างสรรค์อื่น ๆ อีกหลากหลายรูปแบบ โดยในเวอร์ชันนี้ เป็นเวอร์ชันสำหรับองค์กรธุรกิจ ที่รองรับทั้ง ระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS (ต้องเลือกซื้อลิขสิทธิ์โปรแกรมให้ตรงกับระบบปฏิบัติการที่ต้องการติดตั้งใช้งาน)

สำหรับองค์กรธุรกิจที่มีคนทำงานด้านงานกราฟิกเป็นจำนวนมาก และต้องการโปรแกรมสำหรับงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ อีบุ๊ก ที่ใช้งานได้ดี ในราคาถูก ก็สามารถหาซื้อลิขสิทธิ์แท้ของ โปรแกรมออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ อีบุ๊ก รุ่นสำหรับผู้ใช้งานหลายคน ในองค์กร Affinity Publisher 2 (Multi-user) for Business ได้ที่ ร้านขาย สินค้าไอที ไทยแวร์ช้อป (Thaiware Shop) แล้ววันนี้

โปรแกรมด้านงานกราฟิก รุ่นองค์กร ในตระกูล Affinity 2 มีทั้งหมดกี่เวอร์ชัน ?

สำหรับ โปรแกรมด้านงานกราฟิก รุ่นองค์กร ในตระกูล Affinity 2 นั้นมีวางจำหน่ายใน Thaiware Shop อยู่ทั้งหมด 5 เวอร์ชันหลัก ๆ ด้วยกันคือ

1. Affinity Photo 2 (Multi-user) for Business

โปรแกรมแต่งรูประดับมืออาชีพ และจัดการไฟล์ RAW สำหรับตากล้องในโปรแกรมเดียว รุ่นองค์กรธุรกิจ เข้าถึงความช่วยเหลือทางเทคนิคจากทีม Support ของโปรแกรม รองรับการใช้งานบน ระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS (ต้องเลือกซื้อลิขสิทธิ์โปรแกรมให้ตรงกับระบบปฏิบัติการที่ต้องการติดตั้งใช้งาน)

(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Photo 2 (Multi-user) for Business)

2. Affinity Publisher 2 (Multi-user) for Business

โปรแกรมออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ โบรชัวร์ eBook สร้างสรรค์ผลงานออกแบบสิ่งพิมพ์ได้อย่างมืออาชีพ รุ่นองค์กรธุรกิจ เข้าถึงความช่วยเหลือทางเทคนิคจากทีม Support ของโปรแกรม รองรับการใช้งานบน ระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS (ต้องเลือกซื้อลิขสิทธิ์โปรแกรมให้ตรงกับระบบปฏิบัติการที่ต้องการติดตั้งใช้งาน)

(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Publisher 2 (Multi-user) for Business)

3. Affinity Designer 2 (Multi-user) for Business

โปรแกรมระดับมืออาชีพ สำหรับงานวาดภาพกราฟิก ทั้งแบบเวกเตอร์ และแรสเตอร์ รุ่นองค์กรธุรกิจ เข้าถึงความช่วยเหลือทางเทคนิคจากทีม Support ของโปรแกรม รองรับการใช้งานบน ระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS (ต้องเลือกซื้อลิขสิทธิ์โปรแกรมให้ตรงกับระบบปฏิบัติการที่ต้องการติดตั้งใช้งาน)

(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Designer 2 (Multi-user) for Business)

4.  Affinity V2 Universal License (Multi-user) for Business

รวมชุดโปรแกรมทั้ง 3 ตัวในซีรีส์ Affinity ให้ซื้อในราคาเดียว โดยมีทั้ง Affinity Photo 2 (โปรแกรมแต่งภาพ) Affinity Publisher 2 (โปรแกรมออกแบบสิ่งพิมพ์) และ Affinity Designer 2 (โปรแกรมวาดภาพกราฟิก) รุ่นองค์กรธุรกิจ รองรับการใช้งานบน ระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS (ต้องเลือกซื้อลิขสิทธิ์โปรแกรมให้ตรงกับระบบปฏิบัติการที่ต้องการติดตั้งใช้งาน)

(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity V2 Universal License (Multi-user) for Business)

5. Affinity for Education

รวมชุดโปรแกรมทั้ง 3 ตัวในซีรีส์ Affinity ให้ซื้อในราคาถูกเป็นพิเศษ สำหรับการใช้งานในสถานศึกษา โดยมีทั้ง Affinity Photo (โปรแกรมแต่งภาพ) Affinity Publisher (โปรแกรมออกแบบสิ่งพิมพ์) และ Affinity Designer (โปรแกรมวาดภาพกราฟิก) รองรับการใช้งานบน ระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS (ต้องเลือกซื้อลิขสิทธิ์โปรแกรมให้ตรงกับระบบปฏิบัติการที่ต้องการติดตั้งใช้งาน)

(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity for Education)

ตัวอย่าง VDO สาธิตการใช้งาน โปรแกรมด้านงานกราฟิกในตระกูล Affinity 2

คุณสมบัติ และ ความสามารถ (Features)

เครื่องมือการวางเลย์เอาต์ระดับมืออาชีพ

1. ออกแบบหน้าคู่ (Page Spreads) ของนิตยสารได้อย่างสวยงาม
2. รองรับการวางเลย์เอาต์สำหรับแม่แบบหน้าหนังสือทั้งแบบ Master Pages และ Nested Master Pages
3. ใส่กรอบภาพด้วยตัวเลือกการปรับขนาดกรอบที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสม
4. จัดระยะการวางวัตถุลงบนหน้าหนังสือให้พอเหมาะพอดี ด้วยตัวช่วยอย่าง
   1. Guides
   2. Grids
   3. Snap
5. แทรกตารางที่สามารถปรับรูปแบบได้
6. วางย่อหน้าตัวอักษรให้ห่อหุ้มรูปภาพ หรือวัตถุใด ๆ (Wrap Text) ด้วยการกำหนดขอบเขตการวางตัวอักษรได้อย่างละเอียด
7. สร้างกรอบสวย ๆ ล้อมรอบข้อความได้ด้วยรูปทรงที่หลากหลาย
8. ฟีเจอร์ PDF Passthrough ทำให้ไฟล์ PDF ที่อยู่รวมอยู่ในผลงาน ได้รับการส่งออก (Export) ออกไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยยังคงนำเสนอภาพลักษณ์ของของไฟล์ PDF ต้นฉบับได้อย่างถูกต้อง ถึงแม้จะไม่ได้มีการติดตั้งฟอนต์ที่มีอยู่ในไฟล์ PDF ก็ตาม
9. ด้วยฟีเจอร์ Data Merge ทำให้สามารถนำ รูปภาพ และข้อความ มาวางบนเลย์เอาต์ด้วยวิธีการใส่ลิงก์ (รองรับการสร้างลิงก์ด้วยไฟล์ Text/CSV, JSON และไฟล์ Microsoft Excel) อำนวยความสะดวกให้กับการออกแบบสิ่งพิมพ์จำนวนมาก ที่ข้อความ และภาพประกอบ มีความแตกต่างกันไปในแต่ละหน้ากระดาษ อย่างเช่นการสั่งพิมพ์ นามบัตร จ่าหน้าซองจดหมาย บัตรเชิญ เป็นต้น
10. สร้างความประทับใจให้กับเอกสารทางธุรกิจ อาทิ เอกสารงานวิจัย เอกสารแสดงผลงาน หรือเอกสารนำเสนอ สินค้า/บริการ ที่สวยสะดุดตา
11. ปรับปรุงโครงสร้างทั้งหมด และปรับปรุงประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ เพื่อการใช้งานที่รวดเร็ว และราบรื่นยิ่งขึ้น
12. ยกระดับประสิทธิภาพและความเร็วในการจัดการหน่วยความจำ (Memory Management) ของตัวโปรแกรม
13. นำเข้าไฟล์ในฟอร์แมต IDML จาก โปรแกรม Adobe InDesign ได้อย่างรวดเร็ว

สร้างสรรค์งานศิลปะด้วยตัวอักษร (Typography) ในระดับก้าวหน้า

1. ควบคุมการจัดวางตัวอักษร และสไตล์ของการจัดย่อหน้าได้อย่างสมบูรณ์
2. ครอบคลุมการทำงานกับฟอนต์ตัวอักษรแบบ OpenType
3. มีเครื่องมือการตกแต่งตัวอักษร อาทิ กรอบข้อความสวย ๆ (Text Decorations), การเน้นตัวพิมพ์ใหญ่สวย ๆ ในอักษรตัวแรกของย่อหน้า หรืออักษรตัวแรกของบท (Drop Caps) และการตกแต่งตัวอักษรแบบ Initial Words
4. วางตัวอักษรให้ลื่นไหลไปตามแนวเส้นที่สร้างขึ้น
5. การจัดระยะชิดของย่อหน้าที่ยืดหยุ่น ให้ระยะห่างของตัวอักษรที่อ่านง่ายสบายตา
6. แสดงเส้นกริด (Baseline Grid) ที่ช่วยแนะนำการวางองค์ประกอบต่าง ๆ บนหน้าหนังสือ และมีเส้นบรรทัดที่ช่วยในการจัดตำแหน่งการเยื้องย่อหน้าให้สวยงาม (Text Frame Rulers)

จัดการกับภาพ และกราฟิกทั้งหมดในเล่มหนังสือได้อย่างง่ายดาย

1. ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานกับไฟล์ภาพเวกเตอร์ขนาดใหญ่
2. สามารถทำลิงก์ (Link) ภาพทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ในหน้าหนังสือ เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบความพร้อมของภาพทั้งหมดได้ง่าย ๆ ในที่เดียว
3. วางไฟล์ภาพลงบนหน้าหนังสือได้หลากหลายฟอร์แมต อาทิ 
   1. ไฟล์ PSD
   2. ไฟล์ AI
   3. ไฟล์ PDF
   4. ไฟล์ JPG
   5. ไฟล์ TIFF
   6. ไฟล์ PNG
   7. ฟอร์แมตไฟล์ภาพของ Affinity
4. รองรับการทำงานกับไฟล์ PSD ที่อยู่บนเลย์เอาต์ได้เป็นอย่างดี ด้วยการจัดแสดงไฟล์ PSD ในรูปแบบภาพ Bitmap ทำให้ได้ผลลัพธ์การแสดงผลที่ดีกว่า ถึงแม้จะไม่มีการติดตั้งฟอนต์ที่ใช้ในไฟล์ PSD และในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถทำการปรับแต่งเลเยอร์ของไฟล์ PSD ได้ตามต้องการ
5. ปรับแต่งภาพที่นำมาประกอบลงในหน้าหนังสือ โดยที่ไม่ทำลายคุณภาพของต้นฉบับ
6. เครื่องมือ Pen และ Node อันทรงประสิทธิภาพ เพื่อสร้างภาพกราฟิกเวกเตอร์ประกอบหน้าหนังสือ
7. รองรับการทำ Boolean Operations เพื่อการ รวม, ตัดเฉือน หรือ ตัดแบ่งรูปทรง
8. ควบคุมระดับการไล่โทนสี (Gradient) และการทำวัตถุโปร่งใส (Transparency) ได้อย่างราบรื่น นุ่มนวล
9. การใส่เอฟเฟกต์, การทำ Blend Mode และการปรับแต่งภาพ ที่แสดงให้เห็นผลลัพธ์แบบเรียลไทม์
10. ด้วย Blend Mode แบบ Divide ที่ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ รวมถึงยังมีประโยชน์ในการแก้ปัญหาสีภาพผิดเพี้ยน และการปรับแต่งโทนสีภาพอินฟราเรด (Infrared Imagery)
11. ประสานงานในการจัดทำหนังสือได้ง่ายอย่างที่ไม่เคยมีมากก่อน ด้วยการแพ็กรวมเอกสาร ไฟล์ภาพประกอบทั้งหมด รวมถึงฟอนต์อักษร เพื่อส่งต่อไปยังทีมงาน และยังสามา รถรวมหลาย ๆ ไฟล์ให้เป็นเอกสารขนาดใหญ่ไฟล์เดียวในรูปแบบของ รายงานประจำปี หรือหนังสือเล่มใหญ่ 

ผลลัพธ์ระดับมืออาชีพ

1. รองรับทั้งการสร้างสรรค์งานพิมพ์ ระบบสี หรือ โหมดสี แบบ CMYK และ Spot Colour
2. มี Pantone Library ในโปรแกรม ทำให้เลือกใช้สีได้ตรงตามมาตรฐานงานพิมพ์
3. รองรับการ Export ไฟล์งานเลย์เอาต์หน้าหนังสือ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ ตามมาตรฐานงานพิมพ์ระดับมืออาชีพอย่าง PDF/X-1a, PDF/X-3, PDF/X-4
4. ฟีเจอร์ Package จัดเก็บไฟล์งานของเราไปพร้อมกับ ไฟล์ภาพ และฟอนต์อักษร ที่มีการใช้งาน เพื่อความสะดวกในการส่งไฟล์เข้าโรงพิมพ์ หรือการประสานงานส่งไฟล์ไปยังขั้นตอนงานอื่น ๆ
5. สร้างสรรค์งานเลย์เอาต์ที่สวยงาม และเป็นส่วนผสมของ ข้อความ กับภาพประกอบหลากหลายฟอร์แมต อาทิ PSD, AI, PDF, JPG, TIFF, DWG ทั้งในรูปแบบของภาพ แรสเตอร์ และ เวกเตอร์

รองรับการทำงานรวมกับโปรแกรมด้านงานกราฟิกตัวอื่น ๆ ของ Affinity 2

1. เชื่อมโยงวัตถุดิบด้านงานกราฟิก ระหว่างโปรแกรมตัวอื่น ๆ ของ Affinity 2 ได้อย่างสะดวกง่ายดายผ่าน StudioLink
2. ด้วยฟีเจอร์ในระดับก้าวหน้า ทำให้เรียกใช้งานเครื่องมือตกแต่งภาพที่มีอยู่ใน โปรแกรม Affinity Photo 2 หรือเรียกใช้เครื่องมือการวาดภาพเวกเตอร์ ที่มีอยู่ใน โปรแกรม Affinity Designer 2 ได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาออกจากโปรแกรมนี้
3. ให้ขั้นตอนการทำงานที่ราบรื่นที่สุด เมื่อเทียบกับชุดโปรแกรมด้านงานกราฟิกตัวอื่น ๆ

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ โปรแกรมออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ อีบุ๊ก Affinity Publisher 2 (Multi-user) for Business

1. ฟีเจอร์ Book จะช่วยรวมหลายเอกสารงานเลย์เอาต์ ให้กลายเป็นหนังสือเล่มใหญ่ มีการจัดลำดับหมายเลขหน้า จัดทำสารบัญ สามารถประสานงานการจัดทำหนังสือโดยที่ทีมงานแต่ละคนดูแลเนื้อหาของตัวเอง
2. ด้วยฟีเจอร์ Place Auto-flow ทำให้เราสามารถสร้างเลย์เอาต์การวางภาพลงบนหน้าหนังสือ ที่สามารถนำมาใช้เพื่อการวางเรียงภาพได้โดยอัตโนมัติ
3. สามารถ เปิด/ปิด การแสดงเลเยอร์ใด ๆ ของไฟล์ภาพ หรือไฟล์เอกสารที่เอามาวางลงในเลย์เอาต์ โดยสามารถควบคุมการแสดงเลเยอร์ของไฟล์หลายฟอร์แมต อาทิไฟล์ PSD, PDF, DWG และ DXF
4. ด้วยเครื่องมือ Style Picker ทำให้เราสามารถคัดลอก (Copy) สไตล์ของ วัตถุ หรือ ข้อความ เพื่อนำไปใช้ในหน้าเอกสารอื่นได้ตามต้องการ

ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใน Affinity Publisher 2 (Multi-user) for Business เวอร์ชันล่าสุด

1. กำหนดหนดข้อความในหน้าเอกสารที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง ไว้ในรูปแบบของตัวแปร อาทิ ชื่อสินค้า ราคา วันวางจำหน่าย โดยมีสามารถอัปเดตความเปลี่ยนแปลงของแต่ละตัวแปรได้จากที่เดียว โดยเมื่อมีการอัปเดต ชื่อสินค้า ราคา หรือวันวางจำหน่าย ข้อความทุกจุดในหน้าเอกสารจะได้รับอัปเดตโดยอัตโนมัติ ไม่มีตกหล่น
2. ย้ายทุกวัตถุที่เลือกไปยังเลเยอร์ใหม่ด้วยคำสั่ง Move Selection to New Layer ช่วยประหยัดเวลาไปได้มากเมื่อเทียบกับการที่ต้องสร้างเลเยอรี์ใหม่ แล้วลากวัตถุมาวางบนเลเยอร์ที่สร้างขึ้น
3. ด้วย View Mode แบบ Hide effects และ Grayscale ช่วยเพิ่มผลผลิตในงานออกแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานออกแบบที่มีเลเยอร์และเอฟเฟกต์จำนวนมาก การปิดการแสดงเอฟเฟกต์จะช่วยให้กระบวนการทำงานเร็วขึ้น ในส่วนของโหมดการแสดงผลแบบโทนสีเทา (Grayscale) ก็มีประโยชน์สำหรับการตรวจสอบคอนทราสต์ และ Dynamic Range ของงานออกแบบ
4. ตัวเลือกในการเปลี่ยนสีของเส้นไกด์บนหน้างานออกแบบ เพื่อให้เห็นเส้นไกด์เด่นชัดขึ้น
5. สลับไปมาระหว่าง 2 หน้าเอกสารที่ทำงานด้วยได้อย่างรวดเร็วด้วยคำสั่ง Previously Viewed Spread
6. สร้างรูปทรงได้ง่ายกว่าเดิมด้วยความสามารถในการกำหนดขนาด และคุณสมบัติอื่น ๆ ของรูปทรงได้ง่ายกว่าเดิม และมีการจดจำค่าล่าสุดเอาไว้สำหรับการสร้างรูปทรงในครั้งถัดไป

ความต้องการของระบบ (System Requirements)

Windows

• OS :
  • Windows 11
  • Windows 10 May 2020 Update (2004, 20H1, build 19041) or later
• RAM : 8 GB. RAM recommended
• Harddisk : 1 GB. of available hard drive space; more during installation
• Display : 1,280x768 display size or larger
• Additional Requirement : Direct3D level 12.0-capable card
•  

 macOS

• OS :
  • macOS Ventura 13
  • macOS Monterey 12
  • macOS Big Sur 11
  • macOS Catalina 10.15
• CPU : Mac with Apple silicon (M1/M2) chip or Intel processor
• RAM : 8 GB. RAM recommended
• Harddisk : Up to 2.8 GB. of available hard drive space; more during installation
• Display : 1,280x768 display size or larger
• Mac Pro, iMac, iMac Pro, MacBook, MacBook Pro, MacBook Air, Mac mini