ขาย Sound Forge Pro 18 ลิขสิทธิ์แท้

Sound Forge Pro 18
(โปรแกรมทำงานเพลง งานเสียง มีเครื่องมือ และปลั๊กอินเสริม ระดับมืออาชีพมากมาย)

Perpetual License
  Perpetual License คืออะไร ?

Sound Forge Pro 18 เป็น โปรแกรมมัลติมีเดีย (Multimedia Software) ประเภท โปรแกรมตัดต่อ ตกแต่งเสียง ขั้นสูงระดับมืออาชีพ คุณภาพดี จากค่าย MAGIX (บริษัทเดิมคือ SONY แต่ทาง MAGIX ไปซื้อมา) ช่วยให้คุณสามารถตัดเสียง มิกซ์เสียง เพิ่มเอฟเฟกต์ ปรับความถี่ของย่านเสียง แก้ไขเสียงรบกวนต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ภายในโปรแกรมจะประกอบไปด้วย ซาวด์เอฟเฟกต์จำนวนมาก ปรับแต่งหรือสร้างเสียงที่เหมาะกับงานของคุณอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถสร้างเสียงในแบบที่คุณต้องการได้

โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 นี้จะแสดงรูปแบบเสียงออกมาเป็น กราฟคลื่นความถี่ ช่วยให้คุณดูรายละเอียดของเสียง ปรับแต่งส่วนที่ต้องการได้ พร้อมการออกแบบ Workflow รูปแบบใหม่ช่วยให้คุณทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีระบบ Multichannel Audio อัดเสียงจัดการเสียงได้หลายช่องทาง หลายรูปแบบ รองรับเสียงคุณภาพสูง ระดับ 64 Bits / 768 kHz เลยทีเดียว ใช้งานได้หลากหลายประเภทสร้างสรรค์ผลงานได้ตามที่คุณชื่นชอบ

โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 เป็นโปรแกรมด้านการสร้างสรรค์ผลงานเสียง ผลงานเพลงที่ได้รับการยอมรับ และเลือกใช้โดยมืออาชีพด้านงานเสียงระดับโลก อาทิ

• Simon Viklund : โปรดิวเซอร์ (Producer) และนักแต่งเพลง ที่อยู่เบื้องหลังงานดนตรีประกอบให้กับเกม Street Fighter III: 3rd Strike (Capcom), Tom Clancy's Ghost Recon Advanced Warfighter 1 & 2 (Ubisoft)
• Joey Stuckey : นักร้อง, โปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลง ที่อยู่เบื้องหลังผลงานศิลปินระดับโลกอย่าง Alan Parsons, Hughie Thomasson (Lynyrd Skynyrd), Mike Mills (R.E.M.)
• Ted Perlman : นักดนตรี, โปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลง ที่อยู่เบื้องหลังผลงานศิลปินระดับโลกอย่าง Dr. Dre, Bob Dylan, Elton John, Whitney Houston, Diana Ross

สำหรับ Music Producer หรือคนทำเพลงระดับมืออาชีพ ที่ต้องการโปรแกรมทำเพลงที่รองรับการบันทึกเสียงในระดับคุณภาพยอดเยี่ยม และฟีเจอร์สำหรับการทำงานด้านเสียงที่ครบถ้วน ก็สามารถหาซื้อ โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 ลิขสิทธิ์แท้ ได้ที่ ร้านขาย สินค้าไอที ไทยแวร์ช้อป (Thaiware Shop) แล้ววันนี้

โปรแกรมด้านงานเสียง ระดับมืออาชีพ Sound Forge มีทั้งหมดกี่เวอร์ชัน ?

โปรแกรมด้านงานเสียง ระดับมืออาชีพ ในซีรีส์ Sound Forge นั้นมีวางจำหน่ายใน Thaiware Shop อยู่ทั้งหมด 2 เวอร์ชันหลัก ๆ ด้วยกันคือ

1. Sound Forge Audio Studio

โปรแกรมบันทึกเสียง ตัดต่อเสียง แก้ไขเสียง บันทึก แก้ไข Mastering และ จัดการเพลงหรือเสียง ครบทุกฟังก์ชันการใช้งาน

(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Sound Forge Audio Studio)

2. Sound Forge Pro

โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง ระดับมืออาชีพ บันทึกเสียงได้ถึง 32 แชนแนล มีเอฟเฟกต์สำหรับการทำ Mastering ให้เลือกใช้หลากหลาย

(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Sound Forge Pro)

คุณสมบัติ และ ความสามารถ (Features)

คุณสมบัติเด่นของ โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง Sound Forge Pro

• จัดการแก้ไข ตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง ปรับค่าต่าง ๆ ได้อย่างมืออาชีพ
• มีเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้งานมากมาย ให้เสียงของคุณมีลูกเล่นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
• เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถสร้างเสียงในแบบที่คุณต้องการได้ง่าย ๆ
• มีเครื่องมือพื้นฐานและขั้นสูงให้เลือกใช้งาน มากมาย
• แสดงรูปแบบเสียงแบบ กราฟคลื่นความถี่ ปรับแต่งได้ตามต้องการ
• ด้วย Workflow รูปแบบใหม่ช่วยประหยัดเวลาในการทำงานมากยิ่งขึ้น
• มีระบบ Multichannel Audio อัดเสียง จัดการเสียงได้หลายช่องทาง
• รองรับเสียงคุณภาพสูง ระดับ 64 Bits / 768 kHz
• เอนจิ้นการ Resampling ที่ทำงานกับไฟล์เสียงที่มีความแตกต่างหลากหลายทั้งในเรื่องของ ฟอร์แมต, Codec, Sample Rate และมารวมกันอยู่ในโปรเจกต์เดียวกันได้เป็นอย่างดี โดยทำการปรับแต่งให้เข้ากันได้ และได้ผลงานที่คุณภาพเสียงดีที่สุด

รองรับงานบันทึกเสียงอย่างสมบูรณ์แบบ

โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 มาพร้อมคุณสมบัติในการบันทึกเสียงขั้นสูง บันทึกเสียงได้ถึง 32 แชนแนลสัญญาณเสียง ที่ระดับคุณภาพสูงสุดถึง 64 Bits / 768 kHz ทำให้เก็บรายละเอียดในทุกย่านเสียงได้อย่างครบถ้วน และด้วยเครื่องมือด้านงานเสียง (Sound Engine) ที่ใช้พลังการประมวลผลจาก CPU แบบ 64 บิตอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ไม่มีความหน่วงในระหว่างการทำงาน

มันสามารถบันทึกเสียงร้อง เสียงเครื่องดนตรี และการอัดเสียงสำหรับรายการ พอดแคสต์ (Podcast) ได้อย่างกระจ่างชัด และด้วยฟีเจอร์ Threshold Recording ทำให้โปรแกรมเริ่มต้นการบันทึกเสียงโดยอัตโนมัติ เมื่อเราเริ่มพูด หรือเริ่มบรรเลงดนตรี อำนวยความสะดวกสำหรับการทำงานคนเดียวในสตูดิโอ

การบันทึกเสียงแบบรีโมท

โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 มาพร้อมหน้าต่างการบันทึกเสียงแบบรีโมทที่มีขนาดเล็ก ช่วยอำนวยความสะดวกในการควบคุมการบันทึกเสียงให้กับเราได้อย่างมากมาย สามารถย้ายหน้าต่างควบคุมงานบันทึกเสียงที่มีขนาดเล็กไปวางบนจุดไหนของหน้าจอได้ตามต้องการ อยากเช่นการย้ายไปวางไว้ข้าง ๆ หน้าต่างข้อความหนังสือ ที่เราต้องการบันทึกเสียงการอ่านเพื่อจัดทำ Audiobook เป็นต้น

การตัดต่อเสียง ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 เป็นโปรแกรมแต่งเสียง แก้ไขเสียงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีการพัฒนากันมา คนทำงานด้านเสียงสามารถ ตัดต่อเสียง แก้ไข และปรับปรุงคุณภาพเสียงได้ในทุกรายละเอียด และในทุกรูปแบบ (Format) ของเสียงที่ต้องการ

และ โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 ในเวอร์ชันล่าสุด มาพร้อมหน้าต่าง Instant Action ที่ทำให้เรียกใช้งานเครื่องมือที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้ในคลิกเดียว โดยแสดงเครื่องมือต่าง ๆ ในรูปแบบปุ่มไอคอน มีการแบ่งกลุ่มไอคอนสำหรับงานต่าง ๆ อย่างชัดเจน อาทิ Efffects, Mastering, Export, Import ทำให้เรียกใช้เครื่องมือต่าง ๆ ของโปรแกรมนี้ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาเครื่องมือผ่านทางเมนูต่าง ๆ ให้ยุ่งยาก

โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 สามารถเปิด แก้ไข แปลงไฟล์เสียง และบันทึกไฟล์เสียง จากแหล่งสัญญาณที่หลากหลายในสภาพการทำงานแบบ หลายแทร็กเสียง ได้อย่างแม่นยำ และยังรองรับการทำงานในลักษณะ Multitasking ได้เป็นอย่างดี

มันยังสามารปรับแต่งเสียง ไปพร้อม ๆ กับการเรนเดอร์ไฟล์เสียงในพื้นหลัง ทำให้ไม่ต่องเสียเวลารอคอย และยังรองรักการสร้าง Loop เสียง เพื่อการนำไปใช้กับ โปรแกรมทำเพลง ACID Pro ได้ด้วย และด้วยฟีเจอร์ Channel Converter สามารถสลับแชนแนลของสัญญาณเสียง Stereo หรือไฟล์เสียงที่บันทึกมาแบบ Multichannel และสามารถมิกซ์แชนแนลเสียงเพื่อการใส่เอฟเฟกต์เสียงต่าง ๆ ได้

สร้างสรรค์หนังสือเสียงในคลิกเดียว

โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 มาพร้อมเครื่องมือ ACX Export Wizard เพื่อการสร้างสรรค์ไฟล์เสียงในรูปแบบ หนังสือเสียง (Audiobook) ที่เหมาะสำหรับการนำไปเผยแพร่ผ่านบริการสตรีมมิ่งเนื้อหาเสียงอย่าง Audible, Amazon หรือ โปรแกรม iTunes ด้วยการสั่งงานเพียงคลิกเดียว ทำให้เราไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดการกับมาตรฐานในงานเสียงที่ซับซ้อน โฟกัสกับการจัดเตรียมเนื้อหาที่ต้องการถ่ายทอดได้อย่างเต็มที่

ปรับแต่งโทนเสียงได้ดั่งใจ

โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 มาพร้อมกับเครื่องมือใหม่อย่าง DynamicEQ ที่ทำให้การมิกซ์เสียงง่ายและแม่นยำกว่าเดิม ปรับแต่งย่านความถี่เสียงได้ตรงจุดที่ช่วยยกระดับคุณภาพเสียง สามารถ ยกระดับ / ลดทอน และปรับโทนเสียงของทั้งโปรเจกต์งานเสียงด้วยความแม่นยำในระดับสูงสุด และปรับแต่งได้อย่างละเอียด และออปชันตัวเลือกที่หลากหลายในการจัดการกับ EQ Band และด้วยฟีเจอร์ใหม่ในการทำ Oversampling ที่ช่วยยกระดับความบริสุทธิ์ของสัญญาณเสียง มิกซ์เสียงได้แบบแทบจะไร้สัญญาณรบกวน

ทำงานกับ Loudness ได้ง่ายกว่าเดิม

ด้วย Loudness Meter รูปแบบใหม่ที่มีอยู่ใน โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 ที่สามารถแสดงระดับ Loudness ของไฟล์เสียงในรูปแบบของกราฟต่อเนื่องที่สัมพันธ์กับไทม์ไลน์ รองรับฟอร์แมตของ Loudness อาทิ EBU R 128 และ ITU-R BS.1770-4 มาพร้อมกับเครื่องมือวิเคราะห์ค่าพีคของสัญญาณเสียง และสามารถปรับแต่งด้วยค่าพรีเซ็ตอย่างง่ายดาย แสดงค่าต่าง ๆ ด้วยรหัสสีที่เข้าใจง่ายและทำงานได้ง่าย

มิเตอร์ที่รองรับระบบเสียงโมโน

การถ่ายทอดผลงานเสียงของคุณจะสมบูรณ์แบบมากขึ้น แม้จะเป็นการเปิดเล่นผ่านอุปกรณ์ที่ถ่ายทอดสัญญาณเสียงแบบโมโน ด้วยเครื่องมือมิเตอร์ที่รองรับการตรวจสอบคุณภาพเสียงแบบโมโน ที่มีอยู่ใน โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 ทำให้สามารถตรวจสอบปัญหา Phase Cancellation ด้วยการแสดงสีสันที่เด่นชัด และแม่นยำตรงตามมาตรฐานด้านงานเสียง

เอฟเฟกต์เสียง Reverb ที่ดีเยี่ยม

สนุกกับงานสร้างเสียงด้วยเอฟเฟกต์ Reverb ที่เข้าถึงได้ง่าย และมีอยู่ใน โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 สร้างบรรยากาศแปลกใหม่ให้กับงานเสียง ด้วยบรรยากาศที่เหมือนล่องลอยในห้วงอวกาศไกลโพ้น ปรับแต่งค่าพรีเซ็ตให้ตรงกับรสนิยมของคุณ เป็นเอฟเฟกต์ที่ใช้งานง่าย และให้คุณภาพเสียงดีเยี่ยม

แก้ไขเสียงแบบลงลึกในรายละเอียด

พบกับเครื่องมือการปรับแต่งเสียงระดับตำนานอย่าง Celemony Melodyne Essential ที่มีอยู่ใน โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 ทำให้มืออาชีพด้านงานเสียง เข้าถึงรายละเอียดทางด้านดนตรีในเสียงที่บันทึกมา แบบโน้ตทีละตัว ทำให้เข้าใจความสัมพันธ์ทางดนตรีในโน้ตแต่ละตัว เข้าใจคุณสมบัติของมัน รวมถึงสเกล และคอร์ดที่ใช้ รวมถึง จังหวะ, Tempo และเสียง ทำให้สามรถทำการปรับแต่งได้อย่างละเอียดด้วยเครื่องมือตัวนี้

ส่งออกผลงานเป็นผลลัพธ์สุดท้ายอย่างรวดเร็ว

โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 เปิดโอกาสให้มืออาชีพด้านงานเสียง สามารถปรับแต่ง Workflow การทำงานเพื่อให้ประมวลผลออกมาเป็นไฟล์ผลงานสุดท้ายอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้เอฟเฟกต์ ค่าพรีเซ็ตต่าง ๆ รวมถึงการเลือกฟอร์แมตไฟล์ที่ต้องการส่งออก (Export) แล้วบันทึกค่าการปรับแต่งเหล่านี้เอาไว้ในรูปแบบ Instant Action ที่เรียกใช้งานได้อย่างรวดเร็วผ่าน Context Menu (เมนูที่คลิกขวาแล้วเจอ) ช่วยให้ทำการส่งออกไฟล์ในรูปแบบเดิม ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

กู้คืนคุณภาพเสียง และการทำ Mastering

ใน โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 ได้รวบรวมเอฟเฟกต์ และปลั๊กอินที่ใช้งานง่ายจำนวนมาก สำหรับการทำ Mastering และการกู้คืนคุณภาพเสียง ที่ทำงานบนพื้นฐานของอัลกอริทึมการประมวลผลสัญญาณเสียงดิจิทัล (DSP) ในระดับก้าวหน้า ทำให้เกิดกระบวนการตบแต่งคุณภาพเสียงที่มีคุณภาพและความแม่นยำสูง

มีเอฟเฟกต์สำหรับการทำ Mastering ให้เลือกใช้หลากหลายครบความต้องการ อาทิ 

• coreFX Compressor : บีบอัด Dynamic Range ของสัญญาณเสียง ลดความแตกต่างของระดับช่วงเสียงเบา และเสียงดัง
• coreFX Limiter : ควบคุมไม่ให้สัญญาณเสียงมีความแรงมากเกินไป
• coreFX Expander : ลดสัญญาณเสียงรบกวน (Noise) และเพิ่ม Dynamics เพื่อให้สัญญาณเสียงที่เป็นธรรมชาติ
• Wave Hammer 2.0 : เครื่องมือระดับสูง ที่เป็นส่วนผสมของ Compressor และเครื่องมือเร่งระดับเสียง ทำให้สัญญาณเสียงมีความดังมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังควบคุมช่วง Peak ของสัญญาณเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• iZotope Ozone 10 Elements : เครื่องมือระดับสูง ที่มาพร้อมค่าพรีเซ็ตที่ใช้งานง่าย มากมายหลายแบบ ที่ตอบโจทย์การ Mastering เพื่อนำผลงานไปเผยแพร่ในหลายลักษณะ และด้วยฟีเจอร์ Mastering Wizard จะทำการวิเคราะห์โปรเจกต์งานเสียงของเรา เพื่อสร้างโปรไฟล์ที่แนะนำค่าต่าง ๆ ที่เหมาะสมในการ Mastering เพื่อปรับแต่งผลลัพธ์สุดท้าย ให้เหมาะสำหรับการเผยแพร่ผ่านรายการวิทยุ หรือการเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย

Visualize สัญญาณเสียง เพื่อการทำงานที่ง่ายขึ้น

การวิเคราะห์คุณภาพสัญญาณเสียงใน โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 แสดงผลในรูปแบบ Visualization ที่แสดงระดับคุณภาพเสียง ให้เห็นในรูปแบบของสีสัน หรือรูปคลื่นที่ชัดเจน ช่วยให้ทำงานง่าย ไม่ต้องเสียเวลาตรวจสอบคุณภาพเสียงด้วยตัวเองในทุกรายละเอียด และยังมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง WaveColor ที่มีการระบายสีลงไปบนคลื่นเสียง เพื่อบ่งบอกค่า Pitch หรือบุคลิกเสียงในแต่ละท่อนของสัญญาณเสียง

โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Peak Meter V2 ที่สามารถแสดงค่า Peak ของสัญญาณเสียงในแต่ละช่วงแบบเรียลไทม์ได้อย่างแม่นยำ และด้วยเครื่องมือ Clipping Identification and Selection ที่สามารถสแกนไฟล์เสียง และระบุช่วงที่เกิดอาการเสียง Clip ได้โดยอัตโนมัติ ทำให้เราเห็นชัดเจนว่าตรงจุดไหนเกิดเสียง Clip เพื่อที่จะได้จัดการแก้ปัญหาด้วยเครื่องมือ DeClipper ที่มีอยู่ในโปรแกรมนี้

ใช้งานฮาร์ดแวร์เอฟเฟกต์ในรูปแบบปลั๊กอิน

โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 ช่วยให้มืออาชีพด้านเสียงทำงานง่ายขึ้นอีกด้วยความสามารถในการใช้งานเอฟเฟกต์ที่เป็นฮาร์ดแวร์ในลักษณะปลั๊กอินของโปรแกรมตัวนี้ ด้วยการผสานรวมที่ง่ายดาย และยังช่วยขยายความเป็นไปได้ในการควบคุมอุปกรณ์เอฟเฟกต์ที่คุณคุ้นเคย

ช่วยให้งานปรับแต่งเสียงง่ายขึ้น และเป็นอัตโนมัติ

ด้วยปลั๊กอิน coreFX Utility ที่มีอยู่ใน โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 ช่วยให้งานแก้ไขปรับแต่งเสียงที่ต้องทำอยู่เป็นประจำ ทำได้ง่ายขึ้นและมีเครื่องมืออัตโนมัติมาช่วยงาน ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือคุณภาพสูงจำนวนมากเพื่อสร้างสรรค์ผลงานเสียงอย่างมืออาชีพ

สร้างมิติเสียงลึกโอบล้อม 3 มิติ

โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 ยกระดับความกระจ่างชัดและความโอบล้อมของมิติเสียงด้วยฟีเจอร์ 3D Reverb FX ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ในงานเสียงอย่างไร้ขัดจำกัด ด้วยเครื่องมือเพียงตัวเดียวที่ใช้งานง่าย สร้างสภาพแวดล้อมเสียงอ้างอิงตามการวางตำแหน่งแทร็กเสียงแบบ Spatial อัปเกรดจากงานเสียงแบบสเตอริโอไปสู่งานเสียง 10 แชนแนล

เข้าถึงสต๊อกงานเสียงประกอบจาก Storyblocks

แต่งแต้มสีสันใหม่ ๆ ให้กับงานเสียงของคุณด้วย บริการสต๊อกงานเสียงคุณภาพระดับมืออาชีพจาก Storyblocks ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายจาก MAGIX Hub ที่มีอยู่ใน โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 โดยคลิปเสียงใน Storyblocks ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี และมีโทนเสียงที่ตรงตามทุกความต้องการตั้งแต่หรูหราอลังการ ไปจนถึงโทนเสียงที่ดื่มด่ำสวยงาม

เปลี่ยนข้อความเป็นเสียงพูดด้วย AI

ลดความยุ่งยากในการบันทึกเสียงพูดบรรยายด้วยเครื่องมือที่ใช้พลังจาก ระบบสมองกลปัญญาประดิษฐ์ AI ช่วยเปลี่ยนข้อความบทบรรยายให้เป็นเสียงพูดอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง และสามารถแปลข้อความเป็นภาษาอื่นได้มากเกินกว่า 100 ภาษา เพื่อการสร้างเสียงพูดบรรยาย (บริการนี้อาจไม่รองรับภาษาไทย) สามารถเลือกเป็นเสียงพูดของผู้ชายผู้หญิง รวมถึงเลือกบุคลิกเสียงพูดได้อย่างแตกต่างหลากหลาย ทำให้ โปรแกรมทำเพลง แต่งเสียง รุ่นโปร Sound Forge Pro 18 เหมาะมากสำหรับคนทำคอนเทนต์สาย Podcaster ไปจนถึงการลดภาระงานของนักพากย์เสียง

ความต้องการของระบบ (System Requirements)

• OS : 
  • Windows 11
  • Windows 10
• CPU : 1 GHz. or more
• RAM : 512 MB. or more
• Hard drive : 500 MB. for program installation
• Graphics card : Onboard, minimum resolution 1,280 x 768
• Sound card : Onboard or better
• Program language : Deutsch, English, Français, Español
• Internet connection : Required for registering and validating the program, as well as for some program features. Program requires one-time registration.
• File formats :
  • Import :
    • SOUND FORGE Audio Studio Project Files (*.sfas)
    • SOUND FORGE Pro Project Files (*.frg)
    • ATRAC Audio (*.aa3, *.oma)
    • Audio Interchange File Format (AIFF) (*.aif, *.aiff, *.snd)
    • AVC (*.mp4)
    • CD Audio (*.cda)
    • Dialogic VOX ADPCM (*.vox)
    • Direct Stream Digital (DSD) (*.dsf)
    • DLS Instrument (*.dls)
    • FLAC Audio (*.flac)
    • GIG Instrument (*.gig)
    • Intervoice (*.ivc)
    • LPEC Audio (*.msv, *.dvf)
    • MainConcept AVC/AAC (*.mp4, *.avc, *.bsf, *.264, *.aac)
    • MainConcept MPEG-1 (*.mpg, *.mpeg, *.mmv, *.m1p, *.m1a)
    • MainConcept MPEG-2 (*.mpg, *.mpeg, *.m2t, *.mmv, *.m2p)
    • MP3 Audio (MP3s) (*.mp3)
    • MPEG-2 Transport Stream (*.m2t, *.ts, *.mts, *.m2ts)
    • NeXT/Sun (Java) (*.au, *.snd)
    • Ogg Vorbis (*.ogg)
    • Quick Time 7 (*.mov, *.qt, *.dv, *.gif, *.tif, *.tiff)
    • Raw Audio (*.raw, *.*)
    • Shockwave Flash (*.swf)
    • Sonic Foundry Audio (*.sfa)
    • Sony MXF (*.mxf)
    • Sony MXF HDCAM SR (*.mxf)
    • Sony Perfect Clarity Audio (*.pca)
    • Sony Wave64 (*.w64)
    • Sony XAVC/XAVC S (*.mxf)
  • Exporting music :
    • SOUND FORGE Pro Project File (*.frg)
    • ATRAC Audio (*.aa3)
    • Audio Interchange File Format (AIFF) (*.aif)
    • Dialogic VOX ADPCM (*.vox) Direct Stream Digital (DSD) (*.dsf)
    • FLAC Audio (*.flac)
    • Intervoice (*.vc)
    • LPEC Audio (*.msv)
    • MainConcept AVC/AAC (*.mp4, *.avc, *.aac)
    • MainConcept MPEG-1 (*.mpg)
    • MainConcept MPEG-2 (*.mpg; *.m2v, *.m2t, *.mpa)
    • MP3 Audio (MP3s) (*.mp3)
    • NeXT/Sun (Java) (*.au)
    • OggVorbis (*.ogg)
    • Quick Time 7 (*.mov)
    • Raw Audio (*.raw)
    • Sony AVC/MVC (*.mp4, *.m2ts, *.avc)
    • Sony MXF (*.mxf)
    • Sony MXF HDCAM SR (*.mxf)
    • Sony Perfect Clarity Audio (*.pca)
    • Sony Wave64 (*.w64)
    • Sony XAVC / XAVC S (*.mxf, *.mp4)
    • Sound Designer 1 (*.dig)
    • Video for Windows (*.avi)
    • Wave (Microsoft) (*.wav)
    • Windows Media Audio V11 (*.wma)
    • Windows Media Video V11 (*.wmv)
    • XDCAM EX (*.MP4)

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างแต่ละเวอร์ชัน (Comparison Table)

ตารางเปรียบเทียบ โปรแกรมตัดต่อเสียง บันทึกเสียง ทำเพลง Sound Forge Audio